จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สาระธรรม ๔ คติธรรมคำกลอน




PHUDTHO.BLOGSPOT.COM
                           " สาระคติธรรมคำกลอนอ่านแล้วจิตใจเจริญขึ้น "

 ๑. มานับถือพระพุธศาสนากันเถิด : มาเป็นพุธแท้เถิด
        อันผู้ใดใฝ่ธรรมเป็นเนืองนิจ                และรู้จักข่มจิต ไม่ย่อหย่อน
ปฏิบัติพร้อมพรั่งดังครูสอน                        คงไม่ต้องอนาทร และร้อนใจ
ปราชน์สรรเสริญว่าธรรมนั้นแสนดีเลิศ       สุดประเสริฐกว่าทรัพย์ ทั้งน้อยใหญ่
ธรรมคุ้มผู้ประพฤติธรรมไซร้                       คงต้องได้ผลงามตามตำรา.

๒. พิจารณาชีวิต : 
          มีชีวิตอยู่จงเร่งคิด            สุจริตทำกิจการ
หมั่นเพียรในการงาน                 เลื่องลือขานคนกล่าวชม
ตายแล้วร่างก็เน่า                       ทุกคนเล่าไม่รื่นรมย์
เหลือไว้ให้นิยม                           คือความดีที่ได้ทำ.
๓. วัฏจักรแห่งชีวิต : 
        คนกินสัตว์สัตว์กินพืชยืดชีวิต    พืชมีสิทธิ์กินดินสิ้นสงสัย
ความหมุนเวียนเปลี่ยนมาน่ากินใจ    ว่าทำไมพื้นดิน กลับกินคน.
๔.  พลังแห่งบุญ :
                             บุญเดิมส่งให้ได้ดี          ได้ดี
                             บุญยิ่งทำยิ่งทวี             เพริศพริ้ง
                    บุญยิ่งมากยิ่งมี    ความสุข 
                            บุญติดตามไม่ทิ้ง            เช่นเค้าเงาตน.
๕.เสียงปลุกเบิกอรุณ
      สุริโยไขแสงใกล้แจ้งแล้ว          ฝูงวิหคร้องเจื่อยแจ้ว แสวงหา
ซึ่งอาหารทยานไปในนภา                หมู่ปักษายังขยัน หมั่นหากิน
ท่านที่รักจะซบนอนอยู่ใยเล่า              ตื่นแต่เช้าเพื่อเกลาจิต เป็นนิจสิน
 แสวงหาธรรมพระสัมมาเป็นอาจิน           ชำระล้างซึ่งมลทิล ออกจากใจ
อายุไขในมนุษย์นี้น้อยนัก               อย่าช้าชักจะเกินการ สุดแข้ไข
เพราะบางคนอาจตายก่อนถึงวัย           มรณะภัยนี้ไม่รอ ให้ต่อรอง
เป็นมนุษย์สุดแสนดีมีโอกาศ            มีปัญญาฉลาดกว่า สัตว์ทั้งผอง  
 ขอวิงวอนให้ท่านจงไตร่ตรอง           ยึดพระธรรมมาประคอง กับดวงใจ
เป็นนิสัยเป็นปัจจัยในภายหน้า             เป็นปัญญาบารมี ชี้แจ่มใส
เพื่อไม่หลงเพลิดเพลินเมื่อเดินไป         เชิญท่านไซร้ตื่นขึ้นรับ สดับธรรม.   
๖.คุณความดีคือสมบัติแท้
อันทรัพย์สินถิ่นฐานและบ้านช่อง       อีกเงินทองไร่นา มหาศาล
เป็นสมบัติติดตัวได้ชั่วกาล             จะต้องผ่านจากกัน ในวันตาย
ส่วนความดีมีศีลสัตย์สมบัติแท้        ถึงตัวแก่กายดับไม่ลับหาย
จะสถิตติดแน่นแทนร่างกาย       ชนทั้งหลายสรรเสริญ เจริญพร.
๗.พิจารณาก่อนนอน
     ก่อนท่านจะหลับไปในคืนนี้         ขอจงตั้งดวงฤดี ใว้ให้มั่น
นึกกุศลผลแห่งดีที่ผูกพัน               จิตตั้งมั่นแน่วแน่ แล้วแผ่ไป
แผ่เมตตาทั่วไปให้คนอื่น               ทั้งรักชื่นเกลียดชัง แต่ครั้งไหน
ขอให้เขาได้ดีมีสุขใจ                     อย่าหวั่นไหวแม้อมิตร ที่คิดชัง
แล้วใจเราจะสบายคลายเร่าร้อน    เพราะจิตผ่อนความเครียด แต่หนหลัง
อะนีขา สุขี  อัตตานัง                   ห่างทุกข์ขังก็เพราะจิต  คิดดีเอย.
๘. เกิดมาทั้งที่ต้องทำดีให้ได้ ตายไปทั้งทีต้องเอาดีฝากไว้                                
                        มา  ให้ดีมีธรรมประจำจิต 
                        ดี    จะติดต่อตั้งเมื่อยังอยู่ 

                       ไป   ให้ดีมีธรรมเข้าค้ำชู
                        ดี    จะอยู่แบ่งภาคเมื่อจากไป.

.ความผิดพลาดเป็นเรื่องของมนุษย์  แต่การให้อภัยเป็นวิสัยของเทวดา
      ถ้าไมีการให้อภัยผิด      และไม่คิที่จะลืมซึ่งความหลัง
จะหาสามัคคียากลำบากจัง  ความผิดพลังย่อมมีทั่งทุกตัวคน.

๑o.รู้ใจ+เข้าใจ+ทำใจได้+ให้อภัย=ความสัมพันที่ยาวนาน
    จะหาใครเหมาะใจที่ไหนเล่า  ตัวของเรายังไม่เหมาะใจหนา
อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา            รู้ล่วงหน้าเสียก่อนไม่ร้อนใจ.

 ๑๑.เวลาผ่านไปผ่านไป ท่านทำอะไรอยู่
      อันโลกเรานี้เหมือนโรงละคร  มนุษย์นิกรทุกชาติภาษา
ต่างร่ายรำทำที่ท่า                      ตามลีลาของบทละคร
บางครั้งก็เศร้าบางคราวก็สุข      บางทีก็ทุกข์หัวอกสะท้อน
มีร้าง มีรัก มีจาก มีจร                 พอจบละครชีวิตก็ลา (ตาย)

๑๒.มองโลกในแง่ดีมีคุณจริง
         มองโลกด้านดีมีผล      เห็นคนอื่นดีมีค่า
ปลุกใจให้เกิดศรัทธา            ตั้งหน้าทำดีมีคุณ
มองโลกด้านร้ายกลายกลับ   ใจรับแต่เรื่องเคืองขุ่น
เหนื่อยหน่ายเลิกร้างทางบุญ  ชีพวุ่นวายแท้แน่เอย.

๑๓.น้ำมนต์ที่ศักดิ์อย่างแท้จริง
                เหงื่อนั่นและคือน้ำมนต์ให้ผลเลิศ 
           ทำให้เกิดสุขสวัสดิ์ พิพัฒน์ผล
          น้ำมนต์รดเท่าใดไม่ช่วยคน
          จนกว่าตนมีเหงื่อเมื่อทำจริง
          การงานนั้นต้องทำด้วยสติมีสมาธิ ขันติมีอุตส่าห์
          มีสัจจะมีทมะมีปัญญามีศรัทธากล้าหาญรักงานจริง.

๑๔.มีสติ มีปัญญา
         ก่อนเชื่อสิ่งใดให้พิสูจน์  ก่อนพูดยั้งคิดวินิจฉัย
ก่อนทำกิจการงานใดๆ            คิดให้รอบคอบจึงชอบการ
คนฟังมากเรียนมากรู้หลักปราชน์ ย่อมทนงองอาจไม่หวาดไหว
เหมือนมีมิตรติดตามเช้าค่ำไป     เป็นเหตุให้วิวัฒสวัสดี.

๑๕.เมื่อทำเหตุมาดีผลที่ได้ย่อมดีตาม
    ต้องการสุขกายให้ขวนขวายทำดี              ต้องการเป็นเศรษฐีให้รู้จักประหยัด
ต้องการสมบัติให้กตัญญู                               ต้องการความรู้ใ
ห้คบบัณฑิต 
ต้องการมีมิตรให้เสียสละ                                ต้องการพละให้บริหารร่างกาย
ต้องการเป็นเจ้าเป็นนายให้รู้จักความยุติธรรม   ต้องการเป็นผู้อุปถัมภ์ให้มีความขยัน
ต้องการความสมัครสมานให้มีความสามัคคี      ต้องการเป็นคนดีให้มีศีลธรรม.
๑๖. หนทางไกลพิสูจน์กำลลังม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจคน
        จะดูญาติก็เมื่อยากประดากเสีย           จะดูเมียก็เมื่อไข้ ใกล้อาสัญ
จะดูข้าก็เมื่อทุกข์มาประจัญ                        จะเห็นกันถ้วนทั่ว เรื่องชั่วดี
อันคนร้ายหลายลิ้นย่อมปล้นปลอก               เลี้ยงมันหลอกหลอนเล่่น เหมือนเช่นผี
อย่าพานพบคบค้าเป็นราคี                          เหมือนพาลีหลายหน้า ระอาอาย.

๑๗. ความประมาทหนทางสู่ความตาย
       อย่าลากงูพิษติดตามหลัง    อย่าแหย่รังแตนเล่น ไม่เป็นผล
อย่าเอาไม้รันมูตรคูถระคน       จะเปื้อนตนเสียเปล่า ไม่เข้าการ 
อย่าดูถูกมดแดงว่าแรงนิด     อย่าแผงฤทธิ์อวดอ้าง กับชั้างสาร
อีกงูเล็กเล็กพริกเผ็ดเอาการ    ทั้งไฟถ่านเท่าหิ่งห้อย อย่าวางใจ


๑๘. การมีศีลมีธรรม นำแต่เจริญ
  เส้นเกศามาบังภูเขาไว้        ขี่ช้างพลายไล่ตั๊กแตน แสนยากเข็ญ
อย่าเป็นก้างขวางคอถ่อลำเค็ญ  อย่าให้เหม็นชื่อเสียงเพียงวาจา
อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย           บุรุษด้วยไม่มีศีล ก็สิ้นศรี
อันภิษุไม่มีศีลก็สิ้นดี                ข้าราชการศีลไม่มี หาดียาก.


๑๙.ถ้ารู้จักประมาณการจะไม่พบพานความทุกข์
 อย่าเชือดเถือเนื้อหนูไปเพิ่มช้าง อย่าคัดง้างปลวกเตี้ยเติมภูเขา
อย่าแบ่งพิษงูเผื่อนาคยากไม่เบา   อย่ารองเอาน้ำค้าง ใส่สาคร
อยา่าเอาภัยในพนมข่มราชสีห์      เอาวารีขู่ให้ มังกรหยอน
เอามะพร้าวขายที่สวนไม่ควรจร  เอาบทกลอนอวดกวีเป็นที่อาย.
๒o.อยากมีอยากได้แต่ไม่ขยันนั้นไม่ดี
      อันกิเลสเศษมนุษย์สุดที่เบ่ง       ทำทีเก่งก้ามง่า่ ท่าผยอง
ไว้ยศศักดิ์อำนาจชาติลลำพอง     ผู้ดีมองเป็นไพร่ ไร้พงพันธุ์
อันนิสัยมนุษย์นี้สุดยาก        อยากได้มากเอาสบาย เข้าไว้ก่อน
อยากได้ผลเกินงามไม่บั่นทอน  อยากนอนอยู่ให้เงินเหินเข้าหา.


๒๑. รู้จักเดินสายกลาง
    อันวัวควายใครก็เข้าคอกคนนั้น อย่าสำคัญคิดว่ามันจะหลง
อย่าซื่อนักคดนักหรือจักตรง    จงดำรงค์เอาไว้ให้พอดี
คนนิ้วด้วนอย่าด่วนไปสร้างแหวน หัวล้านแล่นอย่าอ้างไปสร้างหวี
คนตาบอดคิดสร้างแว่นแสนผิดที   ใครเริ่มมีนินทาอย่ารอฟัง.

๒๒.ถ้ารู้จักเจียมตัวเจียมตน แล้วจะไม่ทุกข์จน
  เหนื่อยกันเสียวันนีจะดีกว่า     เข้าตำราว่าอดเปรี้ยว ไว้เคี้ยวหวาน
มัวผลัดผ่อนนอนสบายไม่ทำงาน   ชรากาลแล้วจะครวญหวนถึงตัว
เมื่อมีน้อยจ่ายน้อยค่อยๆจ่าย    อย่าฉุยฉายจ่าเล่น เช่นเจ้าสัว
อันเขียดน้อยหรือจะแข่งกับแรงวัว   โลกจะหัวเราะเยอะ เพราะไม่เจียม.

๒๓.มองให้ถูกแล้วทุกข์จะคลาย
      จะมองทุกข์มองสุขมองไให้ดี  ว่าจะเป็น เช่นนึกหวัง
หรือมองเป็นไปตามปัจจัยให้ระวัง อย่าคลุ้มคลั่งจงมองเห็น เป็นธรรมดา
มองโดยนัยให้มันสอนจะถอนโศก  มองเยกโยกมันไม่สอน นอนเป็นบ้า
มองไม่เป็นจะโทษใครที่ไหนมา   มองถูกท่าทุกลข์ก็ คลายสลายเอง
" อยู่คนเดียวให้ระวังยั้งความคิด  อยู่ร่วมมิตรให้ระวัง ยั้งคำขาน
อยู่ร่วมราชเคารพตั้งระวังการ    อยู่ร่วพาลให้ระวังทุกอย่างมี"


๒๕. คนดีรัศมีแรง
     เพชรจะงามเพราะเรือนทองที่รองรับ   จะวาววับแวววามอร่ามศรี
สุกโชติช่วงฉายแสงพราวขาวขจี   เหมือนคนดีงามเฉิดฉันจรรยาคน.

๒๖. คนดีมีศีลมีธรรม
     อันปัญญาพาสว่างกระจ่างแสง     เหลือไฟแรงรืองทั่ว ไม่มัวหมอง
คนใจดีมีค่าปัญญาครอง        ใช้สอดส่องงานทั่ว ทั้งชั่วดี 
เพื่อนที่ดีมีใจอาลัยรัก          ความพิทักษ์หมู่มิตรไม่คิดหนี
ไม่มุ่งร้ายหมายพร้อม แต่ยอมพลี     ใจไม่มีริษยามายากล
อันความสุขใครก็มาตรปรารถณา   อยู่ที่ลละทุจริตผิดกุศล
สุจริตคิดทำประจำตน                   เป็นบ่อเกิดเลิศล้นพ้นอบาย.

๒๗. ชีวิตที่ไร้เป้าหมาย
      วันต้นไม่ศึกษาวิชาไว้    วัยกลางไม่หาทรัพย์ กลับเพิกเฉย
วัยแก่ไม่ทำบุญจุนเจือเลย       ต้องกรเกยหน้าผาก ทนยากจน
คราวตกอับทรัพย์ยศก็หมดสิ้น       มีคนนินทาแช่ง ทุกแห่งหน
จะบ่ายหน้าหาใครในคราวจน         ถูกเขาบ่นแคะ ได้ขายหน้า.

๒๘. มีความชอบแบบไหนก็จะไปตามชอบ
     ภมรมาดมุ่งหมายดอกไม้หอม  แมลงวันคิดตอม แต่ของเหม็น
ชาติบัณฑิตคิดทำดีไม่ยากเย็น    ส่วนพาลเขม้นมุ่งร้าย แต่ฝ่ายเวร.

๒๙.จงเจริญ จงเจริญได้ฟังแล้วเพลินอุรา
     ด้วยเดชพระพุทธรัตน์ตัดรากทุกข์   ขอให้ท่านมีความสุขทุกสมัย
ด้วยเดชพระธรรมรัตน์กำจัดภัย            ขอให้ท่านมีเดชใหญ่ปราบภัยเวร
ด้วยเดชพระสังฆรัตน์ตัดไข้โรค           ขอให้ท่านสร่างหายโศกโรคยุคเข็ญ
ด้วยพระไตรรัตน์ตัดกรรมเวร              ขอให้ท่านเรืองเด่นฤทธิ์ เป็นนิตย์เทอญ. 

๓o.จะเป็นมนุษย์หรือเป็นแค่คน
       เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง   เหมือนหนึ่งยูงมีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำเป็นได้แค่เพียงคน             ย่อมเสียทีที่ตน ได้เกิดมา
ใจสะอาดใจสว่างใจสงบ                 ถ้ามีครบควรเรียก ว่ามนุสสา
เพราะทำถูกพูดถูกทุกเวลา            เปรมปรีดาคืนวัน สุขสันต์จริง
ถ้าใจสกปรกมืดมัวและร้อนเร่า      ใครมีเข้าควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิดทำผิดจิตประวิง          แต่ในสิ่งนำตัว กลั้วอบาย
คิดดูเถิดถ้าใครไม่อยากตก            จงรีบยกใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูงเสียได้ก่อนตัวตาย             ก็สมหมายที่เกิดมาอย่าเชือนแช.

๓๑.เรียนรู้ใดๆไม่สู้เรียนรู้ชีวิต
      เรียนชีวิตอย่าแสวงจากแหล่งนอก  อย่าเข้าไปในคอกแห่งศาสตร์ไหน
อย่ามัวคิดยุ่งยากให้ผากใจ       อย่าพิจารณาจาระใน ให้นุงนัง
อย่ายึดมั่นนั่นนี่ที่เรียกกฏ          มันตรง ตรงคดคด อย่างหมดหวัง
จงมองตรงลงไปชีวิตัง              ดูแล้วหยั่งลงไป ในชีวิต
ให้รู้รสหมดทุกด้านที่ผ่านมา     ให้ซึมซาบวิญญาณ์อย่างวิศิษฎ์
ประจักษ์ทุกข์ทุกระดับกระชับชิด  ปัญหาชีวิตจะเผยออก บอกตัวเอง.

๓๒.ความตายคือสิ่งที่หลบไม่ได้เลี่ยงไม่พ้นทุกคนต้องตาย
               ความตายคือสหายสนิท ชีวิตพร้อมที่จะอำลา
               จงพร่ำภาวนา                 เป็นมนต์ตรากันลืมตน
                                เตรียม สร้างทางชอบไว้        หวังกุศล
                                       ตัว ส่งเสริมผล                 เพิ่มให้
                                    ก่อน  แต่มฤตยูดล               เผด็จชีพ เทียวนา
                                     ตาย  แต่กายชื่อยั้ง             ชั่วฟ้าดินสลาย.

๓๓. จงทำตนให้เป็นที่พึ่งของตน
         คราวมีทรัพย์มิตรญาติไม่ขาดสาย    คราวจนหน่ายแหนงหนีความดีสูญ
ตนพึ่งตนจนหรือรวยช่วยเกื้อกูล              จงพอกพูนเพิ่มวิชาหาพึ่งตน.

๓๔. จะได้ดีก็เพราะปาก จะได้ยากก็เพราะคำ
 คำอ่อนหวานนั่นหรือใช่ซื้อแลก      ควรจะแจกจ่ายไป กำไรหลาย
เป็นเสน่ห์เล่ห์สนิทติดในกาย                ถึงตัวตายส่วนชื่อ เลื่องลือไกล.
         เป็นมนุษย์สุดจะดีที่ฝีปาก        ถ้าพูดมากแต่ไร้ค่าพาเสียศรี
แม้พูดน้อยด้อยราคาค่าไม่มี            พูดไม่ดีเสียค่า ราคาคน
อันพูดดีใช่จะดีเพราะมีปาก              คำพูดดีหายากสุดขัดสน
คำพูดชั่วมีทั่วทุกตัวคน                    คนพูดดีจึงค้นไม่พบพาน
พูดอย่างไรพูดดีขอชี้เหตุ                พอสังเกตกำหนดบทบรรหาร
คือพูดถูกสาระที่ต้องการ                 พูดอ่อนหวานผู้ฟังสิ้นกังวล.

๓๕. ถ้าต้องการอยู่ดีกินดี ต้องทำอย่างนี้ให้ได้
                                        อยู่  ที่ไหนอยู่ได้ให้เขารัก
                                        ดี    ประจักษ์ดีช่วยอำนวยผล
                                        กิน  อะไรให้รู้กินสิ้นกังวล
                                        ดี   เป็นผลดลสนองต้องใจเอย.

๓๖.  ชีวิตก้าวหน้าด้วย ๕ สุข
.ทำดีมีสุข=ละชั่ว +ประพฤติชอบ +ประกอบความดี +มีระเบียบวินัย
.มั่งมีศรีสุ=ขยันหา +รักษาดี +มีกัลยาณมิตร +ใช้ชีวิตพอเพียง
.สมบูรณ์พูนสุข=ไม่มีหนีสิน +พอกินพอใช้ +ไร้โรคโศกภัย +จิตใจเยือกเย็น
.อยู่ดีมีสุข=โอบอ้อมอารี +วจีไพเราะ +สงเคราะห์ทุกคน +วางตนพอดี
.อยู่เย็นเป็นสุข=รักกัน +ช่วยเหลือกัน +ไม่ริษยากัน +ไม่ทำลายกัน

๓๗.กรรมนี้มีกฏกำหนดส่งผล ดีชั่วรวยจนไม่พ้นกฏกรรม
    การเวียนว่ายตายเป็นเช่นบัดนี้   ตามวิถีเวรกรรม ทำไว้ก่อน
มิบรรเทาเร้ารุ่มสุมแต่ร้อน            ปิดทางจรไม่ประสบ พบที่เห็น
ควรที่มีสติตริแข่งขัน                     คิดเลื่อนชั้นขึ้นไป ให้สูงเด่น
โดยประพฤติยึดธรรมพร่ำบำเพ็ญ  เพื่อหลีกเร้นเลี่ยงต่ำนำสู่บน
วันและคืนพลันดับลงลับล่วง          ส่องปัญญาให้สว่างทางมรรคผล
ให้เห็นทุกข์ทางดับสรรพสิ้นยล    แล้วพาตนตามแสงธรรม นำสบาย.

๓๘. เมื่อทำบุญแล้วให้กล่าวดังต่อไปนี้ เพื่ออุทิศส่วนกุศล จะช่วยให้ได้บุญเพิ่มทวียิ่งขึ้น
        ขออุทิศผลกรรมที่ทำนี้       จงเป็นที่ประจักษ์แจ้งทุกแห่งหน
จงสำเร็จแก่ญาติมิตรสนิทชน      ที่เวียนวนตายเกิดกำเนิดมา
สรรพสัตว์ทุกถ้วนหน้าเทพารักษ์    จงประจักษ์ในกุศลผลนี้หนา
พ้นจากทุกข์ประสบสุขทุกเวลา      สมดังข้า อุทิศให้ด้วยใจเทอญ.

๓๙.เมื่อทำบุญแล้วหรือสวดมนต์จบให้กล่าวดังต่อไปนี้
        ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล      บุญกุศลนี้แผ่ไป ให้ไพศาล
ถึงมารดาบิดาครูอาจารย์              ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยร่วมเคยรักสมัครใคร่          มีส่วนได้ในกุศล ผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ       ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญ.

๔o. มนต์คลายโกรธ :
      ถ้าพูดไปเขาไม่รู้อย่าดุเขา      ว่าโง่เง่า งมเงอะ เซอะหนักหนา
แต่ตัวเราทำไมไม่โกรธา          ว่าพูดจาให้เขา ไม่เข้าใจ
โทษผู้อื่นแลเห็นเป็นภูเขา         โทษของเราแลไม่เห็น เท่าเส้นขน
ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเราเหลือทน     ตดของตนถึง เหม็นไม่เป็นไร
จะหาใครเหมาะใจที่ไหนเล่า        ตัวของเรายังไม่ เหมาะใจหนา
อนิจจังทุกข์ขังอนัตตา             รู้ล่่วงหน้าเสียก่อน ไม่ร้อนใจ
เดินนั่งนอนร้อนในอกแทบหมกไหม้     แล้วยั้งดื้อถือโทษโกรธทำไม
ได้อะไรเป็นประโยชน์โปรดตรองดู 
    เรื่องข้องจิตผิดมาแต่ครั้งก่อน       จะคิดย้อนให้ร้อนใจทำไมหนา
คนชอบเอาเรื่องเก่ามาเผาอุรา         ช่างเซ่อซ่าฉลาดน้อย ด้อยEQ.
๔๑.มงคลชีวิต จิตประเสริฐ
       อย่าดีแต่ตัว... อย่าเอาชั่วใส่คนอื่น... อย่าชื่นชมคนผิด...
อย่าคิดเอาแต่ได้... อย่าใส่ร้ายคนดี... อย่ากล่าว วจีมุสา...
อย่าซุบซิบนินทา... อย่าลืมเวลาคุม "สติ"
๔๒.คู่ชีวีที่มีสุข : ต้องซื่อตรง ต้องจงรัก ต้องหนักแน่น:
        เมื่อมีคู่ก็จงรู้ปรนนิบัติ         แล้วซื่อสัตย์สุจริตจิตนอบน้อม
อย่าคิดร้ายย้ายแยกทำแปลกปลอม   หมั่นนอบน้อมเสน่ห์หาพาสุขเอย.   

๔๓. คนในสังคมมีศีลธรรมกันมากๆ คือ "สังคที่สมบูรณ์"
       @คนไทยคนงามสยามยิ้ม       ใบหน้าอิ่มอาบรักเป็นสักขี
ใบหน้าอิ่มอาบน้ำใจมิตรไมตรี        ใบหน้ามีมิตรสัมพันธ์ทุกชั้นชน
วาจาหวานขานเพราะเสนาะโสต      วาจาดีมีประโยชน์โสติผล
วาจาซื่อถือตรงคำมงคล              วาจาปนคำปราชญ์ชนชาติไทย
มีสองมือถือมั่นขยันกิจ                 มีสองมือกระชับมิตรกันชิดใกล้
มีสองมือรำฟ้อนอ่อนละไม            มีสองมือยื่นให้ ไทยทาน
มีสองขากล้าสู้ศัตรูศึก                  มีสองขากล้าฝึก ทวยทหาร
มีสองขากล้าก่อมิท้อการณ์           มีสองขากล้าคลาน กราบกรานพระ
มีใจเดียวแน่นหนักความรักชาติ   มีใจเดียวศรัทธาศาสน์ สาธุสะ
มีใจเดียวเทอดกษัตริย์ขัตติยะ      มีใจเดียวใจสละ ใจอภัย
คือคนไทยมีอยู่รุ่นปู่ย่า                ในวาจาบ่งบอกอ่านออกได้
สมัยนี้เอน็จอนาถขาดคนไทย       คนอะไรก็ไม่รู้ มาอยู่แทน
ขอกู่เรียกความเป็นไทยกลับไวเถิด         ขอกู่เรียกความดีเลิศประเสริฐแสน
ขอกู่เรียกความรุ่งเรืองเหมือนเมืองแมน   ขอเพิ่มแผนพัฒนาปู่ย่าตายาย  
สมัยใหม่ไวนัก ก็มักล่ม                    สมัยเก่าโง่งมก็ล้มง่าย
ทั้งใหม่เก่าเราผสมไม่งมงาย            จึงจักกลายเป็นสังคมที่สมบูรณ์... 
------------------"มีอีกหลายบทกวี วิถีธรรม อ่านต่อคลิ๊ก ตรงนี้ครับ."-----------------      
๔๔.ความเพียรนำสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน :
      การกระทำใดไม่พินิจได้คงวามผิดเป็นกำนัน  ไม่ทำเฝ้าแต่ฝันไม่มีวันจะสมใจ
ผู้ใดใฝ่เกียจคร้านอย่าหวังงานการสุกใส  คนหมั่นเท่านั้นไซร์จะพึงได้การงานงาม../


๔๕.สิ่งที่ควรรักเชิดชูบูชา :
      ธรรมชาติชนม์ดีอันมีศักดิ์    ย่อมต้องรักธานินทร์ถิ่นสถาน
รักบิดามารดาครูอาจารย์           รักภูบาลร่มเกล้าทุกเช้าเย็น
รักชาติวงศ์พงศ์เผ่าเหล่าภาษา   รักศาสนาสอนแสดงแจ้งให้เห็น
กตัญญูรู้ระลึกนึกเช้าเย็น            สิ่งจำเป็นรักไว้ให้มั่นเอย../


๔๖. สำนึกวันถึงวันผู้ให้กำเนิด เมื่อถึงวันเกิด
      งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น       ฉลองกันในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง       วันเกิดส่งชีพสั้น เร่งวันตาย
อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาหน้าเศร้าแท้          หญิงแก่ๆ นั่งหงอย และคอยหาย  
โอ้..วันนั้นเป็นวันอันตราย                  แม่คลอดสายโลหิต แทบปลิดชนม์
วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่          เจ็บท้องแท้เท่าไหร่ มิได้บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าจะคลอด รอดเป็นคน   เติบโตจนบัดนี้ นี่เพราะใคร 
แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น               กลับเป็นวันลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก็หลงระเริงใจ                  ลืมผู้ให้ชีวิต อนิจจา
ไฉนจึงเรียกกันว่าวันเกิด                    วันผู้ให้กำเนิด จะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา          ให้มารดาคุณเป็นสุข จึงถูกแท้
เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ               ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
ระลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด่                  อย่ามัวแต่จัดงาน ประจานตัว../


๔๗.ผู้เป็นลูกๆ ต้องพิจารณา :
      พ่อแม่ก็แก่เฒ่าจำจากเจ้าอยู่ไม่นาน              จะพบจะพ้องพานเพียงเสี้ยววาน ของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจากเพราะยังอยากเห็นลูกหลาน   แต่ชีพมิทนทานย่อมร้าวราน สลายไป
ขอเถิดถ้าสงสารอย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ               คนแก่ชะแรวัยย่อมเผลอไผล เป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่าเพียงเมตตาช่วยอาทร                   ให้กินและให้นอนคลายทุกข์ผ่อน พอสุขใจ                          
 เมื่อยามเจ้าโกรธขึงให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย           ร้องให้ยามป่วยไข้ได้ใครเล่า เฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนเติบใหญ่แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน     หวังเพียงจะได้ผลเติบโตจน สง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิดขอให้คิดทุกโมงยาม               ใจแท้มีแต่ความหวังช่วย อำนวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่งมีหรือหวังอยู่นานได้                   วันหนึ่งคงล้มไปทิ้งฝั่งไว้ ให้วังเวง../
๔๘.หลบไม่ได้เลี่ยงไม่พ้น หนีแก่ไม่ได้หนีไข้ไม่พ้น ทุกคนต้องตาย
     อันโรงเรือนเปรียบเหมือนกับสังขาร    ปลูกไว้นานเก่าคร่ำ  จำสลาย
แก่ลงแล้วโคร่งคร่างหนอร่างกาย           ไม่เฉิดฉายเหมือนสาวหนุ่มกระชุ่มกระชวย
ตาก็มัวหัวก็ขาวเป็นคราวคร่ำ                หูก็ซ้ำไม่ได้ยิน เอาสิ้นสวย
แรงก็น้อยถอยกำลังนั่ง งง งวย             ฟันก็หักไปเสียด้วยไม่ทันตาย
แต่ตัณหาเป็นไฉนจึงไม่แก่                  ยังปกแผ่พานผึง จึงไม่หาย
ถึงสังขารจะแก่ก็แต่กาย                    แต่ใจไม่คิดถึงรำพึงตน 
วันและคืนพลันดับลงลับล่วง              ท่านทั้งปวงจงอุตส่าห์ หากุศล 
พลันชีวิตคิดถึง รำพึงตน                  อายุคนมันไม่ยืน ถึงหมื่นปี../
๔๙.ยึดมั่นถือมั่น มันเหนี่ยวรั้งยังแต่ทุกข์
      อันมนุษย์ปุถุชนบนโลกนี้        ล้วนมีแต่ความผิด ติดอยู่หนึ่ง
คื่อนั่นเรา เราเป็นนั่น หมั่นคำนึง    แล้วหยุดตรึงสังขารา ว่าตัวตน
ความขังจิตติดสังขารปานฉะนี้     ในบาลีว่าสัตตะ อนุสนธิ์
แปลเป็นไทยใช้ว่าสัตย์ ชัยยุบล    คนเป็นพาลสัตย์โลกนาม ตามเนืองชัย 
ความลุ่มหลงส่งจิตคิดประมาท     ทำให้ขาดสติ มิสงสัย
ก่อกิเลส เกิดตัณหา ซัดพาไป      ความอยากได้สิ่งต่างๆ ย่างเข้ามา
พลโลกทั้งมวลล้วนอยากได้         จึงต้องไวใช้แข่ง แย่งขึ้นหน้า
แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งไคลคลา  เป็นอันว่ารับภัย ไปด้วยกัน
ความผิดเห็นเป็นชอบครอบงำจิต    จึงมืดมิดมิเห็นแสงแห่งสุขสันต์../
๕o. สำนึกพระคุณแม่
     พระคุณแม่เลิศฟ้ามหาสมุทร        พระคุณแม่สูงสุด มหาศาล
พระคุณแม่เลิศกว่าสุธาธาร               ใครจะปานแม่ฉัน นั้นไม่มี
อันพระคุณใครๆในภิภพ                    ยังรู้จบแจ้งคำมา พร่ำขาน
แม่และพ่อมีคุณต่อบุตรสุดประมาณ   ขอกราบกรานระลึกถึงซึ้งพระคุณ
เจ้าข้าเอ๋ยใครหนอใครให้กำเนิด         จึงก่อเกิดเติบใหญ่ด้วยไออุ่น
ทั้งกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมาด้วยการุณ  ช่วยค้ำจุนจนรอดพ้นเป็นคนมา
ถึงลำบากร่างกายใจห่วงลูก                ด้วยพันผูกดวงใจ ให้ห่วงหา 
หัวอกใครจะอุ่นเท่าอีกเล่านา              คอยปลอบเช็ดน้ำตา คราระทม
เป็นแดนใจใสสะอาดปราศกิเลส         เป็นสรรเพ็ชฌ์ของบุตร พิสุทธิ์สม
ความรักเปี่ยมเมตตา น่านิยม             ประดุจลมโชยเย็น ใครเห็นดี
หอบสังขารทำงานเลี้ยงลูกน้อย         เกรงจะด้อยใจทราม ต่ำศักดิ์ศรี
จึงส่งให้ได้ศึกษาวิชามี                    ให้ได้ดีกว่าแม่พ่อ หวังรอคอย
เหมือนนกกาหาเหยื่อมาเผื่อลูก        เปรอความสุขหาทรัพย์ไว้ให้ใช้สอย
ยามไกลพรากจากอุราตั้งตาคอย    ใจละห้อยนอนสะอื้น ขื่นขมทรวง
กว่าลูกลูกจะสำนึกพระคุณท่าน       ช่างเนิ่นนาน บ้างชีวา ลาลับล่วง
บ้างก็ป่วยแทบสิ้น ชีพแดดวง          ลูกจึงห่วงเอาใจใส่ ในกายา
อย่าให้รอใกล้ตายจึงกรายใกล้        เป็นศพไปจึงรู้บุญ คุณท่านหนา
ยามท่านอยู่ควรรู้ชัดสร้างศรัทธา    ตอบแทนคุณมารดา บิดาเอย
      ขอนอบน้อมหมอบกราบแท้ พระแม่แก้ว   สำนึกแล้วความเลว เคยเหลวไหล
ลูกซึ้งแล้วแนววิถี ที่เป็นไป           แม่ช้ำใจเพราะลูกมา จนชาชิ
ลูกสร้างกรรมทำบาปกราบเท้าแม่       ซึ้งใจแท้แม่อภัย ให้หมดสิ้น 
น้ำตาแม่แต่ละหยด ที่รดริน                ลูกถวิลดั่ง น้ำกรดรดหัวใจ
ลูกขอบวชแทนพระคุณ คุณแม่แล้ว   ร่มโพธิ์แก้วโพธิ์ทอง ของลูกเอ๋ย
อันกุศลผลบุญที่คุ้นเคย                    ขอชดเชยคุณแม่ พลันกตัญญู
****************************************************************************************************
เวบนี้จัดทำโดย  สุทธิ   เมืองสีนุ่น   (ที่ปรึกษา พระณรงค์เดช  มหาเตโชภิกขุ ) 
โครงการเผยแพร่พระพุทธศาสนา   เพื่อเพิ่มคนดีมีศีลมีธรรมในสังคม  " พุทธศาสนาเพื่อสันติภาพโลก
 phudtho@gmail.com ( เวบพุทโธ ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน):  สร้างเมื่อวันจันทร์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น